3,314,222.43 B
yahoo mail ยาฮู! คือบริษัทผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตสัญชาติอเมริกันซึ่งประกอบไปด้วยเว็บท่า, เสิร์ชเอนจิน, Yahoo! Directory, Yahoo! Mail, Yahoo! News, Yahoo! Photos (ซึ่งในวันที่ 20 เดือนกันยายน ปี พุทธศักราช 2550 ได้ย้ายไปรวมเข้ากับ Flickr), ฯลฯ ยาฮู! ก่อตั้งขึ้นโดยนักศึกษาปริญญาเอกสองคนซึ่งทั้งสอวได้จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด เจอร์รี่ หยาง (Jerry Yang) และ เดวิด ฟิโล (David Filo) ในเดือนมกราคมปี 1994 และเริ่มดำเนินกิจการในรูปแบบบริษัทครั้งแรกในวันที่ 2 เดือนมีนาคม ปี คริสตร์ศักราช 1995 ปัจจุบัน ยาฮู! มีบริษัทมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองซันนีเวล รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา
อ้างอิงสถิติการเยี่ยมชมเว็บไซต์ (รวมถึงอเล็กซ่า และเน็ตคราฟต์) ยาฮู! ยังคงเป็นเว็บไซต์ที่มีผู้ชมมากที่สุดในโลกอินเทอร์เน็ต ด้วยจำนวนผู้ใช้ 412 ล้านคน เครือข่ายของยาฮู! ทั่วโลกมีเพจวิวโดยเฉลี่ยกว่า 3.4 พันล้านหน้าต่อวัน(อัปเดตเมื่อเดือนตุลาคม 2005) ปัจจุบันยาฮู! เปิดให้บริการในประเทศไทยด้วยและเริ่มเปิดตัวในประเทศไทยด้วย หรือ Yahoo! Answers ในภาคภาษาไทย
ที่มาที่ไปของ Yahoo! เริ่มต้นเมื่อเดือนมกราคมปี 1994 โดยนักศึกษาปริญญาเอกสองคนซึ่งทั้งสอวได้จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด นักศึกษาสแตนฟอร์ดทั้งสองคน เจอร์รี่ หยางและเดวิด ไฟโล ได้สร้างเว็บไซต์ที่ชื่อว่า “Jerry’s Guide to the World Wide Web” (ไกด์แนะนำท่องเวิร์ลไวด์เว็บของเจอร์รี่) Jerry’s Guide to the World Wide เป็นเว็บไซต์ประเภทเว็บไดเร็คทอรี่ที่รวบรวมเว็บลิงก์ที่น่าสนใจ เรียบเรียงเป็นหมวดหมู่ที่ชัดเจนสำหรับการค้นหา
เดือนเมษายน ปี ค.ศ. 1994 “Jerry’s Guide to the World Wide Web” 07′ จึงได้ทำการเปลี่ยนชื่อเป็น “Yahoo!” โดยไฟโลและหยางกล่าวว่า พวกเขาตั้งชื่อเว็บไซต์ว่า ยาฮู! เนื่องจากมีความชอบในการค้นคว้าความหมายที่ระบุไว้ในพจนานุกรม Gulliver’s Travels โดย Jonathan Swift: ว่า “หยาบคาย, ตรงไปตรงมา, แปลก” และ Yahoo! ยังมีชื่ออย่างเป็นทางการ “Yet Another Hierarchical Officious Oracle” ซึ่งในขณะนั้นใช้ URL ว่า akebono.stanford.edu/yahoo
ปลายปี 1994 ยาฮู! ได้รับการความสนใจมากล้นด้วยยอดการใช้งาน 1 ล้านฮิต จนนักศึกษาทั้งสองคนเริ่มคิดว่าเว็บไซต์ที่พวกเขาทำกันสนุก ๆ เริ่มจะมองเห็นเม็ดเงินที่จะให้พวกเขามีรายได้ นั้นมีแนวโน้มที่จะทำธุรกิจได้ และในวันที่ 1 มีนาคม ปี 1995 ยาฮู! ก็จัดตั้งขึ้นเป็นบริษัท และเมื่อวันที่ 12 เมษายน ปี 1996 ยาฮู! ก็ปล่อย IPO (initial public offering) หรือเปิดซื้อขายเกิดขึ้นในตลาดหลักทรัพย์มีมูลค่า $33.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐโดยขายหุ้นจำนวน 2.6 ล้านหุ้นในราคาหุ้นละ 13 ดอลลาร์สหรั
ในปี 1997-1999 คล้ายกับเว็บเสิร์ชเอนจิน และเว็บไดเร็คทอรี่หลาย ๆ แห่ง ยาฮู! ได้ขยายคอนเซ็ปต์ตัวเองเป็นเว็บท่า ในช่วงปลายทศวรรษที่ 90 ยาฮู! (Yahoo!) , เอ็มเอสเอ็น (MSN) , ไลคอส (Lycos) , เอ็กไซต์ (Excite) และเว็บท่าอื่น ๆ เติบโตอย่างรวดเร็ว เว็บท่าเหล่านี้ได้ดูแลการซื้อกิจการของบริษัทอินเทอร์เน็ตต่าง ๆ หลายต่อหลายบริษัทเพื่อขยายขอบเขตในการให้บริการที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งนี้เพื่อที่จะทำให้นักท่องอินเทอร์เน็ตใช้เวลาอยู่กับเว็บไซต์ของตนมากขึ้น และได้สัมผัสกับเทคโนดลยีใหม่ ๆ
ในวันที่ 8 มีนาคม ปี 1997 ยาฮู! ได้เข้าซื้อเพื่อมาดูแลกิจการของบริษัท โฟร์ อีเลฟเว่น (Four11) โดยเป็นผู้ให้บริการเว็บเมลที่ชื่อว่า ร็อกเก็ตเมล (Rocketmail) และเปลี่ยนชื่อมาเป็น Yahoo! Mail นอกจากนี้ยังได้ซื้อกิจการของ ClassicGames.com และเปลี่ยนชื่อเป็น Yahoo! Games จากนั้นก็เข้าซื้อกิจการของบริษัทการตลาดแบบตรง (Yoyodyne Entertainment) Inc. ในวันที่ 12 เดิอนตุลาคม ปี 1998 และจากนั้นไม่นานเมื่อ 28 เดือนมกราคม 1999 ยาฮู! ก็เข้าซื้อเพื่อมาดูแลกิจการของผู้ให้บริการโฮสติ้งชื่อดัง จีโอซิตี้ (GeoCities) และยังซื้อบริษัท อีกรุ๊ปส์ (eGroups) ซึ่งยาฮู! ได้เปลี่ยนมาเป็นชื่อบริการว่า Yahoo! Groups หลังจากวันที่Slotxo 28 มิถุนายน ปี 2000 นอกจากนี้ ยาฮู! ยังได้เปิดตัวบริการ Yahoo! Messenger ในวันที่ 21 กรกฎาคม ปี 1999.
3 มกราคม ปี 2000 ท่ามกลางกระแสดอตคอมบูมสูงสุด ราคาหุ้นของยาฮู! ขึ้นไปสูงสุดที่ 475 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อหุ้น และ 16 วันหลังจากนั้นราคาหุ้นในยาฮู! ประเทศญี่ปุ่นสูงเกิน 101.4 ล้านเยน (962,140 ดอลลาร์สหรัฐ ณ เวลานั้น) ในช่วงนั้นยังมีแหล่งข่าวจากสำนักข่าว CNBC รายงานเพิ่มเติมอีกว่ายาฮู! กำลังอยู่ในระหว่างการเจรจาร่วมกิจการกับอีเบย์แบบ 50/50 ถึงแม้ว่าดีลนั้นจะไม่ได้เกิดขึ้นจริงแต่ทั้งสองบริษัทก็ได้ผสานความร่วมมือทางธุรกิจโดยเฉพาะในด้านการตลาดและโฆษณาใน 6 ปีต่อมาในปี 2006slot
จากนั้นในช่วงปี 2000 ก็เป็นปีเดียวกับที่กระแสฟองสบู่ดอตคอมแตก Yahoo! เริ่มนำเอาเสิร์ชเอนจินของ Google มาใช้ในเว็บไซต์ จน Google ได้ลูกค้าจาก Yahoo! ไปมากมาย จนวันหนึ่ง เทอร์รี่ ซีเมล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารขณะนั้นก็ตัดสินใจว่า Yahoo! ควรจะสร้างเทคโนโลยีเสิร์ชเอนจินของตัวเอง และเริ่มนำมาใช้ในปี 2004 และปรับบริการอีเมล Yahoo! Mail เพื่อสู้กับ Gmail ของ Google ในปี 2007 แต่จากนั้นแม้ว่าจะมีการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ของตัวเองมากมายเพื่อดึงดูดผู้ใช้บริการ สล็อตสถานการณ์ทางการเงินของบริษัทก็ยังอยู่ในขั้นทรงตัว
เดือนกุมภาพันธ์ 2008 Microsoft Corporation ได้ประกาศจะเข้าซื้อกิจการของ Yahoo! เป็นเงิน 44.6 พันล้านเหรียญ แต่ Yahoo! ได้ปฏิเสธอย่างนิ่มนวลว่าเป็นการตีราคา Yahoo! ที่ต่ำเกินไปมาก ซึ่งคงไม่ทำให้ผู้ถือหุ้นพอใจนัก สามปีถัดมามูลค่าหุ้นของ Yahoo! อยู่ที่ 22.24 พันล้านเหรียญ โดยมีประธานเจ้าหน้าที่คนใหม่คือ แครอล บาร์ซ เข้ามาแทนที่ผู้ร่วมก่อตั้ง Jerry Yang ในมกราคม 2009 ในเดือนกันยายน ในปี 2011 เธอออกจาก Yahoo! โดยประธานบอร์ด Roy Bostock pg slotและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน Tim Morse ได้รับหน้าที่เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารชั่วคราว
ต้นปี 2012 หลังจากค้นหาประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ Yahoo! ก็ได้ Scott Thompson โดยแหล่งข่าวได้เผยแพร่ออกมาว่าได้มีการปลดพนักงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะได้ประหยัดค่าใช้จ่ายเงินไปราว 375 ล้านเหรียญในปีนั้น และกำลังเร่งปรับโครงสร้างองค์กรอย่างเร่งรีบ แต่ในเดือนพฤษภาคมปีเดียวกัน ทาง Yahoo! ได้ออกมาให้ข่าวว่า Thompson ไม่ได้อยู่กับบริษัทอีกต่อไปแล้วpg slot
เดือนกรกฎาคม 2012 Yahoo! ก็ได้ประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ “มาริสสา เมเยอร์” อดีตผู้บริหารจาก Google มาทำหน้าที่พลิกฟื้นบริษัท
ในปี 2017 ผู้ถือหุ้นของ Yahoo ได้อนุมัติให้โดยมีการขายบริษัทให้กับ Verizon ด้วยมูลค่า 4.48 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ อันเป็นผลมาจากผลจากการที่บัญชี Yahoo ถูกแฮกบัญชีอีเมลล์Joker Gamimg
อ่านเรื่องอื่นต่อไป :msn
Content by: admin
ข้อมูลอัพเดทล่าสุด : 17 พฤษภาคม 2021 (ล่าสุดปี 2020)
