บักแตงโม

บักแตงโม

 บักแตงโม

บักแตงโม (ชื่อวิทยาศาสตร์: Citrullus lanatus) เป็นผลไม้ที่มีน้ำประกอบอยู่เป็นจำนวนมาก และหวานมากแต่มีน้ำตาลน้อยกว่าผลไม้บางชนิดเนื่องจากน้ำตาลในผลคือน้ำตาลกลูโคส ​ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเรียก บักโม ภาคเหนือเรียก บะเต้า จังหวัดตรังเรียกแตงจีน ถิ่นกำเนิดอยู่ในทะเลทรายคาลาฮารีทวีปแอฟริกา ชาวอียิปต์เป็นชาติแรกที่ปลูกแตงโมไว้รับประทานเมื่อสี่พันปีมาแล้ว ชาวจีนเริ่มปลูกแตงโมที่ซินเกียงสมัยราชวงศ์ถัง และชาวมัวร์ได้นำแตงโมไปสู่ทวีปยุโรป แตงโมแพร่หลายเข้าสู่ทวีปอเมริกาพร้อมกับชาวแอฟริกาที่ถูกขายเป็นทาส แตงโมต้องการดินที่มีความชุ่มชื้นพอเหมาะ น้ำไม่ขัง มักปลูกกันในดินร่วนปนทราย ในประเทศไทยมีการปลูกแตงโมทั่วทุกภูมิภาค และปลูกได้ทุกฤดู

บักแตงโมเป็นพืชในวงศ์เดียวกับแคนตาลูปและฟัก เป็นพืชล้มลุกเป็นเถา อายุสั้น เถาจะเลื้อยไปตามพื้นดิน มีขนอ่อนปกคลุม ผลมีทั้งทรงกลมและทรงกระบอก เปลือกแข็ง มีทั้งสีเขียวและสีเหลือง บางพันธุ์มีลวดลายบนเปลือก ในเนื้อมีเมล็ดสีดำแทรกอยู่ แตงโมที่นิยมปลูกโดยทั่วไปมี 3 พันธุ์คือ

พันธุ์ธรรมดา มีเมล็ดขนาดเล็ก รสหวาน แบ่งย่อยได้อีกหลายพันธุ์ เช่น แตงโมจินตหรา ผลยาวรี เปลือกเขียวเข้ม มีลาย เนื้อสีแดง แตงโมตอร์ปิโด ลูกรีกว่าพันธุ์จินตหรา แตงโมกินรี ผลกลม เนื้อแดง แตงโมน้ำผึ้ง ผลกลม เนื้อเหลือง แตงโมไดอานา เปลือกเหลือง เนื้อสีแดง แตงโมจิ๋ว ผลขนาดเท่ากำปั้น เนื้อเหลือง เป็นต้น
พันธุ์ไม่มีเมล็ด เป็นพันธุ์ผสมเพื่อใช้ในการส่งออก ไม่มีเมล็ดแก่สีดำภายใน ในญี่ปุ่นมีการทำแตงโมให้เป็นทรงสี่เหลี่ยมโดยให้ผลเจริญในกล่อง เพื่อความสะดวกในการขนส่ง
พันธุ์กินเมล็ด ปลูกเพื่อนำเมล็ดมาคั่ว พันธุ์นี้มีเนื้อมาก
แตงโมเป็นผลไม้ที่มีคุณสมบัติเย็น จะช่วยลดอาการปวด ไข้ คอแห้ง บรรเทาแผลในปาก เปลือกแตงโมนำไปต้มเดือด แล้วเติมน้ำตาลทราย ดื่มเพื่อป้องกันเจ็บคอ กินเป็นผลไม้สด ทำเป็นน้ำผลไม้ เปลือกหรือผลอ่อนใช้ทำอาหาร เช่น แกงส้ม ในเวียดนาม นิยมรับประทานเมล็ดแตงโมในเทศกาลปีใหม่

พบกรดอะมิโน citrulline เป็นครั้งแรกในแตงโม โดยแตงโมมี citrulline มาก ถ้ารับประทานในปริมาณหลายกิโลกรัมจะตรวจพบในเลือดของผู้รัประทานได้ ซึ่งจะเข้าไปรบกวนวัฏจักรยูเรีย

ประโยชน์ของแตงโม

 บักแตงโม

ผลไม้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์หน้าร้อน นอกจากมะพร้าวแล้ว ก็น่าจะมีแตงโมติดโผกับเขาด้วยนะคะ เพราะแตงโมเย็นๆ หวาน ฉ่ำน้ำ ไม่ว่าจะทานสดๆ หรือนำไปปั่นก็อร่อยเย็นชื่นใจ ดับกระหาย คลายร้อนได้ดีจริงๆ แต่นอกจากจะช่วยดับร้อนแล้ว ยังมีประโยชน์อีกหลายอย่างที่ทุกคนอาจจะยังไม่ทราบ มีอะไรกันบ้าง

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดย สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) แนะรับประทาน “แตงโม” เพื่อช่วยคลายร้อน คลายความเครียด ด้วยคุณสมบัติอุดมด้วยสารอาหารที่ให้ประโยชน์กับร่างกาย ส่งผลดีต่อระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยป้องกันการติดเชื้อ รักษาแผลให้หายเร็ว ลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็ง โรคหัวใจ

ในสภาวะที่มีแรงกดดันมากมายในยุคปัจจุบัน การรับประทานแตงโมสามารถช่วยลดความตึงเครียดได้ เพราะสารโพแทสเซียมในแตงโมจะช่วยควบคุมความดันโลหิตทำให้รู้สึกผ่อนคลาย อารมณ์ดี เย็นชื่นใจ เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย นอกจากนี้ แตงโมยังมีสารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายในด้านต่าง ๆ ดังนี้

“ช่วยป้องกันการติดเชื้อ” เพราะการดื่มน้ำแตงโมจะช่วยเพิ่มเบต้าแคโรทีน (Beta Carotene) ซึ่งร่างกายสามารถนำไปใช้ในการสร้างวิตามินเอ หากร่างกายมีวิตามินเอในปริมาณมากๆ จะมีผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยป้องกันการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร ระบบทางเดินหายใจ และระบบขับปัสสาวะ รวมถึงยังช่วยบำรุงผิวพรรณและเส้นผมให้แข็งแรงอีกด้วย

“ช่วยรักษาแผลให้หายเร็วขึ้น” แตงโมมีสารซิตรัลลีน (citrulline) อยู่มาก โดยสารนี้จะไปช่วยในการรักษาแผลให้หายเร็วขึ้น ทั้งนี้ ในการรับประทานแตงโมไม่ใช่เพียงจะดื่มน้ำแตงโมอย่างเดียว เราควรรับประทานเนื้อแตงโมเข้าไปด้วย โดยเฉพาะในส่วนที่เป็นเนื้อสีขาวที่อยู่ลึกลงไป แม้รสชาติจะไม่ค่อยหวาน แต่มีประโยชน์มากมายต่อร่างกาย

“ช่วยต้านมะเร็ง มีประโยชน์ต่อหัวใจ” แตงโมมีสารสำคัญสีแดงที่มีชื่อว่า “ไลโคปีน” (Lycopene) ที่ช่วยในการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งและโรคหัวใจ ซึ่งสารนี้จะมีอยู่มากในมะเขือเทศด้วยเช่นกัน แต่เมื่อเทียบกันแล้วแตงโมจะมีมากกว่าถึง 40% นอกจากนี้ วารสารวิชาการ “โรคมะเร็ง” แห่งเอเชียแปซิฟิก ได้ระบุว่า สารไลโคปีนนี้จะช่วยเป็นโล่ปกป้องผิวหนังจากรังสีอัลตราไวโอเลตจากแสงแดด เพื่อไม่ให้เป็นมะเร็งผิว นอกจากนี้ ทีมนักวิจัยจาก Florida State University พบว่าแตงโมมีกรดอะมิโน L-Citrulline อยู่มาก ซึ่งกรดชนิดนี้เป็นสารตั้งต้นของ L-Arginine ที่ช่วยควบคุมการทำงานของหลอดเลือดหัวใจและช่วยให้การไหลเวียนโลหิตเป็นไปโดยสะดวก จำเป็นต่อการสร้างกรดไนตริก ซึ่งเป็นก๊าซที่ช่วยขยายหลอดเลือด ช่วยลดความดันโลหิต และป้องกันเส้นเลือดสมองแตกได้

“มีประโยชน์ต่อคนที่เป็นโรคอ้วนและเบาหวาน” แตงโมมีแคลอรีต่ำและยังอุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ ที่มีประโยชน์ วารสารโภชนาการของต่างประเทศ “Journal of Nutrition” ได้ให้ข้อมูลว่า กรดอะมิโนในแตงโมที่มีชื่อว่า “อาร์จินิน (Arginine)” มีอยู่มากมายในเนื้อแตงโม เป็นสารที่ช่วยในการเผาผลาญแคลอรีได้ ช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมันและกลูโคส ส่วนไขมันในแตงโมมี 96 แคลอรีเท่านั้น ฉะนั้น การรับประทานแตงโมที่ชุ่มฉ่ำด้วยน้ำ จะช่วยทำให้เราอิ่มได้เร็วขึ้น

“แตงโมกับความงาม” ความเย็นของแตงโมจะช่วยผ่อนคลายผิวหน้าภายนอกให้ดูสดชื่น ส่วนสารสีแดงจากแตงโม คือ ไลโคปีน ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) จะสามารถดูดซับความมันบนใบหน้าได้เป็นอย่างดี และวิตามินเอที่มีในแตงโมจะช่วยให้ผิวพรรณกระจ่างใสขึ้น และวิตามินซีจะช่วยให้ผิวกายสดใสขึ้น แตงโมสีแดงสดยังเต็มไปด้วยโพแทสเซียมที่จะช่วยควบคุมระบบการไหลเวียนของโลหิตในบริเวณผิวหน้าให้เป็นปกติ อีกทั้งยังช่วยให้รูขุมขนมีความยืดหยุ่น ชุ่มชื่น น้ำของแตงโมก็มีประโยชน์ต่อผิวสวยของทุกคน เพราะในน้ำของแตงโมจะมีโมเลกุลของน้ำตาล รวมทั้งมีกรดอะมิโนอยู่เล็กน้อย ซึ่งจะช่วยในการบำรุงผิวของสาวๆ ให้สวยใสยิ่งขึ้น

แม้นว่าแตงโมแช่เย็นจะให้ความสดชื่นแก่ผู้รับประทาน แต่อาจมีคุณค่าทางโภชนาการลดลงเมื่อเทียบกับแตงโมที่เก็บไว้ที่อุณหภูมิห้อง เนื่องจากแตงโมยังผลิตสารอาหารต่อเนื่องแม้ถูกเก็บมาจากต้นแล้ว ซึ่งกระบวนการนี้จะลดลงหากนำแตงโมไปเก็บในอุณหภูมิเย็น อย่างไรก็ตาม รสเย็นของแตงโมก็มีส่วนช่วยในเรื่องระบบขับถ่ายและระบบย่อยอาหาร นอกจากนี้ แตงโมยังมีคุณค่าทางสมุนไพร อาทิ “ราก” มีน้ำยางใช้รับประทานแก้อาการตกเลือดหลังการแท้ง “ใบ” ใช้ชงเป็นยาลดไข้ ผลที่แสนอร่อยนั้นมีคุณสมบัติเป็นยาเย็น ช่วยระบาย ขับปัสสาวะ ช่วยย่อย แก้เบาหวาน และดีซ่าน จากคุณประโยชน์ที่หลากหลายนี้ แตงโม จึงเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพอีกทางเลือกหนึ่งของคนรักสุขภาพทุก ๆ ท่าน

เมนูแตงโม

แตงโมทำอะไรกินได้บ้าง ? ใครเบื่อ ๆ กินผลไม้แช่เย็น ลองจับมาทำขนมหวานและเครื่องดื่ม กระปุกดอทคอมขอนำเสนอวิธีทำเมนูแตงโม เช่น แตงโมย่างน้ำผึ้ง ข้าวแต๋นแตงโม บิงซูแตงโม พิซซ่าแตงโม เยลลี่แตงโม น้ำแตงโมปั่น เป็นต้น ใครพร้อมแล้วลุยกันเลยค่ะ

  1. แตงโมย่างน้ำผึ้ง

ถ้าได้ลองจะติดใจกับแตงโมย่างน้ำผึ้ง เริ่มจากหั่นแตงโมเป็นชิ้นสามเหลี่ยม ทาน้ำมันมะกอก โรยเกลือป่น พริกไทย และราดน้ำผึ้ง จากนั้นก็เอาไปย่างจนสีสวย

ส่วนผสม แตงโมย่างน้ำผึ้ง

วิธีทำแตงโมย่างน้ำผึ้ง

  1. ผ่าแตงโมตามแนวขวางเป็นชิ้น ๆ จากนั้นหั่นเป็นสามเหลี่ยมออกเป็น 4 ชิ้น ทาน้ำมันมะกอกลงไป โรยเกลือป่น พริกไทย และราดน้ำผึ้งลงไปให้ทั่ว Joker Gaming
  2. ตั้งกระทะใช้ไฟปานกลาง ใส่แตงโมลงไปย่าง ด้านละประมาณ 2 นาที ตักใส่จาน ราดน้ำผึ้ง พร้อมเสิร์ฟ

ไอศกรีมแท่งแตงโม

ชวนคลายร้อนกับไอศกรีมแท่งแตงโม ใส่เนื้อแตงโมเน้น ๆ แต่งด้วยช็อกโกแลตชิพ สลับชั้นกับไอศกรีมสีขาวทำจากนมมะพร้าวและไอศกรีมสีเขียวทำจากกีวี

ส่วนผสม ไอศกรีมแท่งแตงโม

วิธีทำไอศกรีมแท่งบักแตงโม

  1. ใส่เนื้อแตงโม น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ และน้ำเลมอนลงในเครื่องปั่น ปั่นจนละเอียด ช้อนฟองออก ตักใส่พิมพ์ไอศกรีมแท่งประมาณ 2/3 ของพิมพ์ โรยช็อกโกแลตชิพลงไป นำไปแช่ช่องแข็งประมาณ 3 ชั่วโมง 30 นาที
  2. ช่วงเวลาก่อนครบ 30 นาที ให้คนนมมะพร้าวกับน้ำตาลทราย 1+1/2 ช้อนโต๊ะ จนละลายเข้ากัน แช่เย็นประมาณ 30 นาที ถ้าข้นเกินไปเติมน้ำเย็น ประมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะ ลงไปคนให้เข้ากัน
  3. พอครบเวลานำไอศกรีมออกจากช่องแช่แข็ง ราดนมมะพร้าวลงไปด้านบนแล้วเอาไปแช่แข็งต่ออีกประมาณ 45 pg slot นาที
  4. ปอกเปลือกกีวี เอาเนื้อกีวีกับน้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะที่เหลือใส่เครื่องปั่น ปั่นจนเนียนแล้วเอาไปกรองอีกรอบ ตักเอาเม็ดกีวีออก แช่เย็นประมาณ 30 นาที
  5. พอครบเวลานำไอศกรีมออกมา ตักเนื้อกีวีลงไป 1 ช้อนโต๊ะ นำไปแช่เย็นต่ออีกประมาณ 2-3 ชั่วโมง พอเซตตัวจัดเสิร์ฟโดยเอาพิมพ์ไปแช่ในน้ำอุ่นก่อนเพื่อเอาออกมาได้ง่ายขึ้น

สลัดแตงโมย่าง

ใครจะไปรู้ว่าแตงโมจับมาทำอาหารอย่างเมนูสลัดแตงโมย่างก็น่าอร่อย ใส่ผักสลัด หอมแดง อัลมอนด์ และชีส พร้อมกับใส่น้ำสลัดบัลซามิก

ส่วนผสม สลัดบักแตงโมย่าง

ส่วนผสม น้ำสลัดบัลซามิก

วิธีทำสลัดแตงโมราดน้ำสลัดบัลซามิก

  1. ทำน้ำสลัดบัลซามิก โดยผสมน้ำส้มสายชูบัลซามิก น้ำส้มสายชูหมักจากไวน์แดง เกลือป่น และพริกไทยดำ คนจนเกลือละลาย เติมน้ำมันมะกอกลงไป เทใส่ลงไปผสมกับใบโหระพาสับ เตรียมไว้
  2. ใส่แตงโม ผักสลัด หอมแดง และเฟต้าชีสลงในอ่างผสม เทน้ำสลัดบัลซามิกลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน ตักใส่ภาชนะ โรยอัลมอนด์และโหระพาลงไป พร้อมเสิร์ฟ Slotxo

อ่านเรื่องอื่นต่อไป : วาฬ

Content by:

ข้อมูลอัพเดทล่าสุด : 28 พฤษภาคม 2021 (ล่าสุดปี 2020)